เข้าสู่ช่วงเดือนเมษายนของทุกปีที่เหล่าชายหนุ่มไทยทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 – 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องไปทำภารกิจรับใช้ชาติด้วยการคัดเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการ หรือที่เรียกกันว่า “เกณฑ์ทหาร” นั่นเอง โดยจะต้องจับฉลากเพื่อคัดเลือกว่าจะได้ใบดำหรือใบแดง ซึ่งจะไม่สามารถเลือกลงหน่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นทหารอากาศ ทหารบก หรือทหารเรือ ขึ้นอยู่กับว่าเราจับได้หน่วยไหน หรือผลัดไหนในการเข้ารับฝึกนั่นเองครับ

คุณสมบัติของผู้สมัครทหารกองประจำการ

1.บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 18 – 20 ปีบริบูรณ์ หรือเกิดในปี พ.ศ. 2546-2548

2.บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 22 – 29 ปีบริบูรณ์ หรือเกิดในปี พ.ศ. 2537-2544 ผู้ที่ผ่านการตรวจเลือกเข้าเป็นทหารแล้ว แต่ไม่ถูกเข้าเป็นทหารประจำการ

3.ขนาดรอบตัวตั้งแต่ 76 ซม.ขึ้นไป (วัดในเวลาหายใจออก) และมีส่วนสูง 146 ซม.ขึ้นไป

นอกจากนี้ทางกองทัพยังมีแผนที่จะเพิ่มโอกาสให้กับผู้ที่มีความสนใจในอาชีพทหาร เพื่อความหลากหลายมากขึ้น เช่น ธุรกิจ การเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งบุคคลที่อยู่ในการดูแลของกรมพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่มีความตั้งใจอยากเป็นทหาร ซึ่งความพิเศษของปี 2566 นี้จะเปิดรับผู้ที่มีความสูงตั้งแต่ 146 เซนติเมตร ขึ้นไป จากเดิมที่กำหนดความสูงไว้ที่ 159 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังเพิ่มทางเลือกให้ผู้ที่สมัครทหารประจำการในสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 2 หน่วย และกองทัพอากาศอีก 1 หน่วย ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีมาก ๆ เลยนะครับ

ช่องทางการสมัคร ทหารกองประจำการ

1.สมัครได้ทางเว็บไซต์ Rcm66.rta.mi.th

2.สมัครด้วยตนเองได้ที่หน่วยทหารใกล้บ้าน หรือสัสดีจังหวัด

เอกสารสำคัญที่ต้องนำไปด้วย

1.บัตรประจำตัวประชาชน

2.สำเนาทะเบียนบ้าน

3.หมายนัดเข้าตรวจรับราชการทหาร (สด.40)

4.ใบรับรองผลการตรวจคัดเลือก (สด.43)

5.ทะเบียนแสดงผลการเรียนและรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว กรณีจบการศึกษา ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลาย (เพื่อใช้สมัครเรียน กศน.)

6.เอกสารลดหย่อนวัน ตามกรณีต่าง ๆ

เสื้อผ้าและสิ่งของติดตัวต่าง ๆ

1.เงินสดติดตัว ให้นำไปเพียง 300 – 500 บาท เพราะในค่ายมีอาหารให้ครบ 3 มื้อ

2.ยารักษาโรคประจำตัว พร้อมแจ้งครูฝึกให้รับทราบ หากมีโรคประจำตัว

3.ในวันรายงานตัว แต่งกายด้วยชุดสุภาพ นำเสื้อผ้าไปเพียงชุดเดียวเท่านั้น คือชุดที่ใส่ไป เพราะจะมีการแจกชุดสำหรับทหารใหม่และของใช้ที่จำเป็น

4.ไม่ควรนำของมีค่าติดตัวไปด้วย เช่น สร้อยทองหรือสร้อยพระ แหวนต่าง ๆ

(และจากประสบการณ์ของหลาย ๆ คนบอกว่า ให้เตรียมกางเกงในส่วนตัวไปด้วย)

ในการฝึกทหารในช่วงแรกจะเป็นการฝึกร่างกายอย่างหนักหน่วง หากใครที่ไม่เตรียมพร้อมฟิตร่างกายเพื่อรับการฝึกหนัก ในช่วงเวลาฝึกจริง อาจจะเป็นช่วงเวลาที่หนักหน่วงก็ได้ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ และอาการป่วยต่าง ๆ เรามาเตรียมฟิตร่างกายกันดีกว่านะครับ โดยเริ่มจาก

1.การออกกำลังกาย 3 วันต่อหนึ่งสัปดาห์ หรือหากทำได้ ให้ออกกำลังกายในทุกวันอย่างน้อย 30 นาที หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง เพื่อให้ร่างกายได้เกิดการคุ้นชิน และเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกที่เข้มข้น

2.บริโภคอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ เสริมแคลเซียมด้วยนมวัว หรือ อาหารเสริมแคลเซียมจากธรรมชาติ

3.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการฝึก

4.เตรียมพร้อมสำหรับช่วงเวลาการฝึกที่เข้มข้น ที่กำลังจะมาถึง ไม่ว่าจะเป็นการทำใจให้สบาย อย่าวิตกกังวนจนเกินไป เพราะการฝึกทหารเป็นการฝึกความอดทนและแข็งแรงของร่างกายให้พร้อมรบอยู่เสมอ ดังนั้นแล้ว การฝึกเป็นทหารจึงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดครับ

ช่วงเวลาฝึกที่เข้มข้น จะต้องอาศัยร่างกายที่แข็งแรง เพราะเมื่อไหร่ที่ร่างกายแข็งแรงเราก็จะสามารถผ่านการฝึกไปได้ด้วยดี ไม่มีการบาดเจ็บ ดังนั้นก่อนไปผลัด 1 จะต้องเตรียมตัวให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การพักผ่อน การกินอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญอย่าลืมเตรียมเอกสารสำคัญไปให้ครบด้วยนะครับ

อ้างอิง

• “คู่มือ ‘ทหารใหม่’ ฉบับออนไลน์ จัดเต็มรู้ไว้ก่อนเข้ากรม!” www.dailynews.co.th

• “ข่าวประชาสัมพันธ์” (https://www.dhr.go.th/post/publicity/438)

• “คุณสมบัติของผู้สมัคร .PDF” (https://rcm66.rta.mi.th/rcm66/doc/inform.pdf)