ประเภทการออกกำลังกาย ที่เหมาะกับคุณ
การออกกำลังกาย ช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรง และลดน้ำหนักได้ดี แถมยังทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนด้วยค่ะ นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวได้ดี ทำให้ทรงตัวได้ดี ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น และยังช่วยให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดีอีกด้วย
แน่นอนค่ะประโยชน์ของการออกกำลังกายนั้นมีมากมาย แต่การออกกำลังกายนั้น มีประเภทไหนบ้างที่เหมาะกับเรา ในบทความนี้จะพาไปรู้จักประเภทของการออกกำลังกายกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
ประเภทของการออกกำลังกายมีอะไรบ้าง
การออกกำลังกายมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การเพิ่มกล้ามเนื้อ หรือจะเป็นการปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ สิ่งเหล่านี้ ล้วนให้ประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้นค่ะ สำหรับการออกกำลังกายนั้น เราสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ นั่นคือ 1.การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic Exercise) 2.การออกกำลังแบบฝึกกล้ามเนื้อและน้ำหนัก (Weight Training) 3.การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) 4.การเสริมการทรงตัว หรือการเล่นโยคะ (Yoga) การออกกำลังกายในแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกันอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic Exercise)
ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบแอโรบิก
- ช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น สูบฉีดเลือดได้ดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของหัวใจทำให้รับออกซิเจนได้ดีขึ้น
- ช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะช่วยเผาผลาญแคลอรี่และเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดี
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน
- ช่วยให้เคลื่อนไหวได้ดี อิสระ ไม่หกล้มง่าย แถมยังช่วยให้กระดูกแข็งแรงอีกด้วย
การออกกำลังแบบฝึกกล้ามเนื้อและน้ำหนัก (Weight Training)
ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบ เวทเทรนนิ่ง (Weight training)
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio)
การออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำได้แก่
ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ (Cardio)
- ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี
- ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
- ช่วยลดน้ำหนักได้ดี (หากทำควบคู่กับการควบคุมอาหาร จะทำให้ลดร้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว)
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ
- ช่วยให้หัวใจแข็งแรง ทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพ
การเล่นโยคะ (Yoga)
การออกกำลังกายแบบยืดเหยียดกล้ามเนื้อ หรือที่เรียกว่า “การเล่นโยคะ” ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถทำได้ง่าย และส่งผลดีในทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะวัยหนุ่มสาว หรือชาวออฟฟิศซินโดรม ที่มักจะเกิดอาการปวดหลัง ปวดเอว หรือปวดกล้ามเนื้อ จากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน การเล่นโยคะจึงตอบโจทย์ เพราะช่วยยืดและคลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงโดยสามารถลดปัญหาออฟฟิศซินโดรมได้ดีอีกด้วย
ประโยชน์ของการเล่นโยคะ (Yoga)
หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าโยคะนั้นช่วยให้ระบบกล้ามเนื้อ ข้อต่อ ข้อพับต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือปวดหัวได้ดี เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หรืออวัยวะต่าง ๆ การเล่นโยคะยังเปรียบเสมือนการนวด เพราะในท่าต่าง ๆ ในการเล่นโยคะจะมีการยืดและคล้ายกล้ามเนื้อ ทำให้เหมือนเป็นการนวดไปในตัว นอกจากนี้การเล่นโยคะยังช่วยให้มีสมาธิเพิ่มขึ้น หรือเป็นการฝึกสมาธิ ฝึกการกำหนดลมหายใจนั่นเองค่ะ
ก้าวแรกของการเริ่มต้นออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความฟิตให้ร่างกายแล้ว ยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีอีกด้วย เลือกประเภทออกกำลังกายให้เหมาะสม แล้วมาเริ่มต้นออกกำลังกาย “เพราะการออกกำลังกายไม่มีคำว่าสาย เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้” เพื่อรูปร่างและสุขภาพที่ดีของเรานะคะ
อ้างอิง
- “คาร์ดิโอ การออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพเพื่อร่างกายและหัวใจ” (www.pobpad.com)
- “เวทเทรนนิ่ง (Weight Training” (https://primocare.com/)
- “การฝึกโยคะ” (www.yogaandme.net)