วิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าให้คุ้มค่า สมราคา
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่เสพติดการวิ่งด้วยแล้วละก็ เมื่อไหร่ช่วงที่ขาดการวิ่งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุมาจากฝนตกตอนเช้า เลิกงานช้าสวนสาธารณะปิดเร็วทำให้เราอดไปวิ่ง กว่าจะได้วิ่งสักทีก็ต้องเป็นวันอาทิตย์โน่น เชื่อว่าหลายท่านเคยเจอกับเหตุการณ์ที่ว่านี้และคงหงุดหงิดใจไม่น้อยเลยที่ต้องอดทำกิจกรรมที่เรารัก วิธีแก้ปัญหานั้นก็ไม่ยากค่ะ เพียงเลือกซื้อหาลู่วิ่งไฟฟ้าดีๆสักเครื่องมาไว้ที่บ้าน ก็จะช่วยให้เราสามารถทำกิจกรรมการวิ่งได้ทุกวัน แต่ด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า ราคาก็ไม่ได้ถูก ก่อนจะซื้อทั้งทีเราก็ควรต้องศึกษาเพื่อพิจารณาว่าแต่ละรุ่นนั้นมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานของเราหรือไม่ วันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าให้คุ้มค่า สมราคามาฝากกัน
ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และการรับประกันสินค้า
การที่เราจะเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างแรกเลยเราควรจะให้ความสำคัญกับแบรนด์สินค้า แบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับกันในท้องตลาดรวมถึงการบริการหลังการขาย การใช้เครื่องวิ่งซึ่งหากเกิดปัญหากับตัวเครื่องขึ้นมา ซึ่งทางร้านค้ามีศูนย์บริการสินค้าอยู่ในประเทศไทยเราก็จะได้สะดวกเรื่องการนำเครื่องเข้าซ่อม ยิ่งหากมีการรับประกันตัวมอเตอร์ไฟฟ้า 5 ปีขึ้นไป ยิ่งเป็นตัวช่วยที่จะทำให้เรามั่นใจได้ยิ่งขึ้นไปว่าลู่วิ่งไฟฟ้าจะเป็นเครื่องออกกำลังกายคู่กับเราได้อย่างยาวนาน เพราะระยะการรับประกันเป็นส่วนหนึ่งที่บ่งบอกได้ถึงคุณภาพสินค้าตัวนั้นๆได้อีกนัยหนึ่ง
เลือกตามขนาดพื้นที่
ลู่วิ่งไฟฟ้ามีหลายขนาด ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อควรดูตามขนาดพื้นที่ในบ้าน ว่าพื้นที่ส่วนที่เราจะวางลู่วิ่งมีขนาดเล็กใหญ่ขนาดไหน โดยการวัดขนาดห้องก่อนที่จะตัดสินใจเลือกรุ่น การวางลู่วิ่งไฟฟ้าเพื่อออกกำลังกายควรเลือกวางไว้ในพื้นที่ที่สามารถระบายอากาศได้ดีเพื่อรองรับการทำงานของร่างกายในขณะที่ออกกำลังกาย บริเวณที่ถ่ายเทได้สะดวกจะช่วยขจัดความอับชื้นที่เกิดขึ้นขณะออกกำลังกายได้อีกด้วย
กำหนดงบประมาณในการซื้อ
การตัดสินใจเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า ราคาก็เป็นปัจจัยอีกอย่างหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อ ยิ่งในปัจจุบันลู่วิ่งไฟฟ้าก็มีให้เลือกกันมากมายหลายรุ่น จะเห็นได้ว่าลู่วิ่งไฟฟ้า ราคาจะมีตั้งแต่ราว ๆ 30,000 บาทไปจนถึงระดับราคาเป็นแสนบาท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทมอเตอร์และฟังก์ชั่นการใช้งาน
กำลังมอเตอร์ และขนาดสายพาน
เราต้องพิจารณาก่อนว่าลู่วิ่งที่เราซื้อมาส่วนใหญ่จะใช้แค่ “เดิน” หรือ “วิ่ง” ถ้าเน้นซื้อมาเพื่อเดินเป็นหลักแนะนำว่าใช้ 1.5 แรงม้าก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าใช้วิ่งเป็นหลักก็ให้เลือกรุ่นที่มีมอเตอร์มากกว่า 2.5 แรงม้า(แรงม้าต่อเนื่อง) ขึ้นไป ส่วนขนาดสายพานสำหรับท่านที่ซื้อมาเพื่อเดินเป็นส่วนใหญ่ แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีขนาดกว้าง 45 ซม. ยาว 138 ซม. หนา 1.6 มิลลิเมตร แต่สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้ามาเพื่อวิ่งเป็นหลักก็ควรเลือกรุ่นที่มีสายพานขนาดกว้าง 50 ซม. ยาว 150 ซม.ขึ้นไป และต้องมีความหนาของแผ่นกระดานไม่น้อยกว่า 2 มิลลิเมตร
ระบบความปลอดภัย
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้านั่นก็คือ ต้องเลือกแบบที่มีระบบความปลอดภัย เช่น มีระบบตัดการทำงานเมื่อผู้ใช้เสียหลักหกล้ม ซึ่งฟังก์ชั่นนี้สำคัญมากเลยนะคะ เพราะมันจะช่วยเซฟหรือระดับความอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นหากผู้เล่นสะดุดล้ม
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับวิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าให้คุ้มค่า สมราคา ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เราเชื่อแน่ว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่าน และที่สำคัญอย่าลืมทดลองใช้เครื่องก่อนการตัดสินใจซื้อด้วยนะคะ เพราะนอกจากฟังก์ชั่นและระบบต่าง ๆ ที่ควรเลือกแล้วการทดลองใช้จริง จะทำให้มั่นใจว่าเป็นเครื่องที่ใช้งานง่าย ถูกใจ และเหมาะสมกับการใช้งานจริง ๆ